วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

จะแต่งงานกับอิสลาม ทำไมต้องเปลี่ยนศาสนา

จะแต่งงานกับอิสลาม ทำไมต้องเปลี่ยนศาสนา
หลาย คนสอบถามเรื่อง เกี่ยวกับว่าทำไมจะต้องเปลี่ยนศาสนาล่ะ ถ้าจะแต่งงานกับมุสลิม (ใช้เรียกผู้ที่นับถืออิสลาม) เพราะอิสลามนั้นมีทั้งหลักศรัทธา และหลักปฏิบัติ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วความเชื่อไม่เหมือนกัน ทุกอย่างย่อมจะมีปัญหาตามมา

การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคน 2 คน แต่มันคือการรวมญาติทุกฝ่ายเข้ามา แนวทางคนละอย่าง แรก ๆ อาจจะบอกว่า เรารักกัน เขานิสัยดี เธอนิสัยดี เราเข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ต่างคนต่างมีวิถีปฏิบัติที่แตกต่างกันไป ปกติศาสนาเดียวกัน แต่งงานกันเองยังมีความแตกต่าง ยังมีปัญหาสารพัด จนอยู่กันไม่ยืด นี่คนละศาสนา Life Style คนละแบบ รูปแบบการใช้ชีวิตต่างกัน...จะเห็นว่า อิสลาม เป็นศาสนาที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียดของชีวิต เราจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องศาสนา เพื่อไม่ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ในภายหลัง

คนละศาสนา แน่นอนความเชื่อ และความศรัทธาที่แตกต่างกันย่อมมีผลต่อการดำรงชีวิตคู่ หากต่างคนต่างความเชื่อแล้วอยู่กันยังได้ ตรงนี้ถ้าในทัศนะอิสลามแล้ว แสดงว่าหย่อนยานทางศาสนา สุดท้ายหมดรักกันแล้ว มักจะแยกย้ายกันไป มีลูกก็จะเป็นปัญหาจะไปทางใด ต่างยื้อยุดฉุดไปในทิศทางการเลี้ยงดูตามความเชื่อของฝ่ายตน

หากจะกล่าวว่า ก็ต่างคนต่างอยู่ในความเชื่อของตนไปสิ เราลองมาดูรายละเอียดปลีกย่อยที่ยามรักแล้วมองข้ามกัน ...

คนหนึ่งไม่ทานหมู ไม่ทานเหล้า อีกคนทานทุกอย่าง อีกฝ่ายจะกล้าทำความสะอาดไหม

คนหนึ่งทานเนื้อ อีกคนไม่ทานเนื้อ

คนหนึ่งไปเชงเม้งกลางแดดที่ต่างจังหวัด อีกคนไม่ไปแดดร้อนจัด

คนหนึ่งไหว้เจ้า อีกคนประกอบพิธีทางศาสนาบ่อย ๆ

คนหนึ่งเคร่งครัดในพิธีการ ละหมาด 5 เวลา อีกคนจะรำคาญไหม

ครอบครัวต่างความเชื่อ ตรงนี้เห็นชัดเจน ทั้งพิธีการ ความศรัทธาและหลักปฏิบัติ อยู่ไปเรื่อย ๆ ก็จะเผยกันมาเอง ทำไมแฟนลูกไม่มา ทำไมหลานเขย หลานสะใภ้ไม่มา ทั้งที่อิสลามส่งเสริมเรื่องไปมาหาสู่ระหว่างญาติพี่น้อง มิให้ทอดทิ้งกัน

ถ้าอีกฝ่ายอยากจะเลี้ยงสุนัข อีกฝ่ายจะอยู่อย่างไร เพราะมีข้อปฏิบัติเรื่องน้ำลายสุนัข

ถ้ามาอยู่กันเอง ผู้ที่นับถืออิสลามก็มีความผิดทางศาสนา ในเรื่องของซินา (มีความสัมพันธ์โดยที่มิได้แต่งงานกันตามหลักศาสนา) ซึ่งบุตรที่เกิดมาจากการซินาจะมีผลในการปฏิบัติตามหลักศาสนา เช่น สิทธิรับมรดกของพ่อ

เมื่อมาใช้ชีวิตด้วยกันก็อยากที่จะให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ดีตามไปด้วย แรก ๆ อาจจะเพราะรักจึงยอมทุกอย่าง แต่พอหมดรัก สิ่งที่เคยมองข้ามเพราะอารมณ์รักบังตาก็จะผุดงอกเงยขึ้นมาทันตา สุดท้ายความรักจืดจาง ปัญหาก็จะเริ่มสะสม จากที่ละน้อยที่เคยมองข้ามกันไป

ปัญหา ครอบครัวส่วนมากมาจาก ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามกันแต่เริ่มแรก รักอย่างเดียวไม่รอดหรอกครับ ต้องใจ..(นักเลง) และเข้าใจถึงวิถีปฏิบัติของกันและกันด้วย

ปัญหามีมาหลาย ๆ อย่าง แต่ถ้าเปลี่ยนความเชื่อมาศรัทธาเหมือน ๆ กันเห็นหลาย ๆ คนยังเลิกรา ตรงนี้ต้องไปมองดูรายละเอียดส่วนบุคคลแล้วว่า ปฏิบัติตามหลักศาสนาจริง ๆ รึเปล่า ไม่ใช่พอแฟนออกจากบ้าน ก็ทำเช่นเดิมทันที คุณแฟนมาก็ซ่อนแอบไว้ สุดท้ายจับได้ ก็ทะเลาะกันไปหาว่าไม่เชื่อใจกัน

บาง คนบอกแฟนเป็นคนเคร่งศาสนา ไม่เห็นทานหมู บอกว่าต่างคนต่างอยู่ก็ได้ เอ...ถ้าเคร่งครัดจริง นอกจากไม่ทานหมู ก็ต้องไม่ทานเหล้า และละหมาด 5 เวลา กิริยาวาจาเรียบร้อย ไม่ล่วงละเมิดจับมือสาว หรือขั้นมีความสัมพันธ์ด้านอื่น ๆ ที่เกินเลย ทั้งที่ยังไม่แต่งงานกัน ไม่เที่ยวตามสถานอโคจร และเป็นบุตรที่ดีของพ่อแม่ นี่แหละครับ คนที่เป็นมุสลิมที่ดี และปฏิบัติจริง ถ้านอกจากนี้ ไม่ทานหมูแต่ทานเหล้า ไม่เคยละหมาด พูดจากไม่สุภาพ เที่ยวหลีผู้หญิง ละทิ้งพ่อแม่ ก็เป็นได้แค่ศาสนาที่ระบุตามกล่าวอ้างกับทางราชการไว้เท่านั่นแหละครับ

เพราะว่าเราเข้ากันได้ (คำตอบที่ได้ยินกันทั่วไป) แสดงว่าต้องมีอะไรที่เหมือนกันคล้าย ๆ กันจึงเข้ากันได้ นี่แหละครับการนับถือศรัทธาเหมือน ๆ กัน ก็ย่อมที่จะเข้ากันและไปได้ดีกว่า บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเปลี่ยนมานับถือแล้วต้องมีปัญหากับที่บ้านแน่ ๆ ตรงนี้ ผู้ที่จะเข้ารับก็ต้องคุยกับทางบ้านเสียก่อน อย่าลืมว่า อิสลามไม่ได้บังคับขู่เข็นให้มารับนอกจากจะศรัทธา หากไม่ศรัทธาจริง ๆ ไม่สามารถปฏิบัติได้แนะนำว่าหาคนที่มีความเหมือนกันดีกว่า

เพราะความเชื่อต่างกัน หลักปฏิบัติต่างกัน ในความเป็นจริง ถ้าไม่เหมือนกันก็อยู่กันยากครับ ชีวิตคู่นะครับไม่ได้มาค้างเพียง 1 คืน แล้วจากลาไป นอกจากต่างคนต่างไม่มีศาสนาก็จะอยู่กันได้ครับ ^^"

ถ้า มาเพราะความรัก แนะนำให้ศึกษาวิถีปฏิบัติของอิสลามเสียก่อนครับ เพราะอย่างน้อยถ้าเราหันมานับถือเราก็ต้องปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ให้คุยกับคนของคุณ ว่ามีปัญหานะไม่เข้าใจ เพราะอิสลามความศรัทธาและการปฏิบัติสำคัญมาก ดังนั้น แนะนำให้ศึกษาศาสนาเสียก่อน ศึกษาจากผู้รู้และปฏิบัติจริง มิใช่สอบถามจากผู้มีศาสนาแค่บัตรประชาชน หรือไม่มีศาสนาเลย เพราะคุณจะไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้องในเรื่องของศาสนานั่นเอง

แต่ถ้ามั่นใจไปกันได้ ถึงญาติจะแตกต่างซึ่งแนวทาง แต่ถ้ารู้หลักศาสนาแล้ว จะมีแนวทางที่ไปกันได้อย่างราบรื่นครับเพราะอิสลามมีแนวทางในทุกเรื่อง

เรียนรู้เพื่อเข้าใจยอมรับ มิใช่ จำเป็นต้องยอมรับเพราะรักเขาอย่างเดียวจนอะไรก็ทำได้ ตรงนี้หมดรักแล้วมีปัญหาแน่ ๆ ลองศึกษาดูว่าทำไมเขาถึงไม่เปลี่ยนมาเป็นแบบคุณแสดงว่าในนั้นมันมีอะไร อะไรตรงไหนที่บอกว่า อิสลามกับคริสต์และยูดาย แต่งกันได้ทำไมเขาถึงมารักกับคุณ ทั้งที่คนละศาสนากัน

อิสลามให้ความสำคัญกับศาสนา

1. พระเจ้า และรอซูล(ศาสนทูตผู้เผยแพร่ศาสนา)
2. มารดา บิดา
3. สามี-ภรรยา
4. บุตร
5. มิตร บุคคลทั่วไป

ถ้า เปลี่ยนมาแล้ว กับพ่อแม่ที่ต่างศาสนา อิสลามก็ยังส่งเสริมให้ปฏิบัติดีทุกอย่างกับแม่ พ่อ เคารพเชื่อฟังท่าน ทำความดีกับท่าน อย่างเต็มความสามารถ (ที่ไม่ขัดกับหลักการอิสลาม) โดยลำดับความสำคัญนั้นรองลง มาจาก พระเจ้าและรอซูล (ศาสนทูตผู้เผยแพร่ศาสนา) แม่ มาก่อนพ่อ เพราะแม่เป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูบุตรทุกอย่าง และในเรื่องของครอบครัว ระหว่างสามีภรรยานั้น ภรรยาก็ต้องเคารพสามี แต่ถ้ามารดาสั่งอะไรที่เกินเลยศาสนา และละเมิดสิทธิระหว่างสามีภรรยาอันนี้ต้องมาพูดคุยกันแล้ว...

เพิ่มเติม...ถ้าจะเข้ารับแล้วมีคนในที่นับถืออิสลาม (ไม่ใช่ผู้รู้ เพราะบางคนที่นับถือใช่ว่าจะรู้ทั้งหมด อาจปฏิบัติผิดพลาดกันได้) บอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แนะให้ศึกษาจากผู้รู้ดีกว่าครับ จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดและเกิดความเข้าใจผิดเข้าใจคลาดเคลื่อนกันเอง

หรือเพราะต่างคนต่างรัก เลยลืมทุกอย่าง อิสลามไม่ใช่เพียงการนับถือแต่คือการปฏิบัติทุกอย่างในชีวิต พินิจพิเคราะห์พิจารณาดี ๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น